บทต้อนรับ
ฉันเชื่อว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ หากเพียงจะเริ่มต้นหันกลับมารับฟังกันและกันอีกครั้งหนึ่ง ด้วยบทสนทนาเรียบง่าย ซื่อตรง และเคารพต่อความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การพูดคุยเพื่อประนีประนอม ต่อรอง แก้ปัญหา โต้แย้ง หรือประชาสัมพันธ์ แต่เป็นบทสนทนาเรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยความสัตย์จริงซึ่งเราแต่ละคนจะมีโอกาศได้พูด มีผู้รับฟังเรา และเราต่างรับฟังกันและกันอย่างตั้งอกตั้งใจ

การพูดคุยกันของมนุษย์เป็นหนทางในการก่อให้เกิดปัจจัยไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เก่าแก่ที่สุดและง่ายดายที่สุด ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน องค์กร และระดับโลก หากเราสามารถนั่งลงเพื่อพูดคุยกันถึงสิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญ เราจะกลับมามีชีวิตชีวา กระตือรือร้นที่จะแบ่งปันสิ่งที่พบเห็น สิ่งที่รู้สึก ขณะเดียวกันก็รับฟังประสบการณ์และความรู้สึกของผู้อื่น
เราไม่เคยปรารถนาความโดดเดี่ยว แต่ทุกวันนี้ เรากำลังเดียวดายแยกแตกกระจัดกระจายออกจากกันและกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาร์ค บิชอบ เดสมอนต์ ตูตู อธิบายสิ่งนี้ว่า " เป็นการแตกแยกอย่างถอนรากถอนโคนในทุกสรรพชีวิต " เราเร่งรีบใช้ชีวิตด้วยความเร็วแบบบ้าระห่ำหมุนคว้างถอยห่างจากกันไปเรื่อย ๆ เราเสาะหาไออุ่นเพื่อปลอบประโลมใจจากทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โลกทั้งใบราวกับถูกสะกดให้หมุนผิดทิศผิดทาง เราถูกยุยงให้รักใคร่ในวัตถุมากกว่าผู้คน อ้าแขนรับสิ่งใหม่ ๆ โดยหลงลืมที่จะเหลียวไปมองว่าได้สูญเสียหรือกระทำสิ่งใดผิดไปบ้าง เลือกความหวาดกลัวแทนสันติภาพ เราสรรหาทุกสิ่งทุกอย่างให้ตัวเอง ยกเว้นกันและกัน เราหลงลืมไปแล้วว่า ความผาสุกและชีวิตที่งดงามนั้นมีจุดกำเนิดมาจากที่ใด
แต่เราไม่ได้หลงลืมมันไปอย่างแท้จริง ขณะที่โลกทวีความซับซ้อนและน่าหวาดหวั่น เราต่างรู้ว่าเราต้องการกันและกันเพื่อจะเดินฝ่าหนทางอันมืดมนนี้ไป ความโหยหาที่จะรวมตัวกันนั้นเป็นสากล เราจะหันหน้าเข้าหากันได้อย่างไร?
หนทางที่เรียบง่ายที่สุดในการหันกลับไปหาผู้อื่นอีกครั้ง คือการเริ่มพูดคุยถึงสิ่งที่เราห่วงใย หากสามารถหยุดเมินเฉยต่อกัน หยุดซุบซิบนินทาด้วยความหวาดกลัว คุณคิดว่าเราจะค้นพบสิ่งใด ?
อย่างไรก็ดี การสนทนานั้นต้องใช้เวลา เราต้องการเวลาที่จะนั่งด้วยกัน รับฟังกัน หวั่นวิตกและวาดฝันร่วมกัน เพราะกลียุคแห่งโลกปัจจุบันได้ฉีกเราออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย เราจึงต้องเรียกวันเวลากลับมาเพื่อรวมตัวกันอีกครั้ง หาไม่ เราจะไม่อาจหยุดยั้งการปริแตกออกเป็นส่วนเสี้ยวนี้ได้
และเราจำเป็นต้องสามารถพูดคุยกับผู้ที่เราเรียนกว่า "ศัตรู" ความหวั่นเกรงในกันและกันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แยกเราห่างออกจากกัน คนส่วนใหญ่มีบัญชีรายชื่อของผู้ที่ตนขยาดอยู่ในใจ ไม่อาจนึกภาพตนเองพูดคุยกับคนเหล่านั้นได้ และหากได้สนทนากันจริงๆ ก็รู้ว่ามันแต่จะกระพือความโกรธให้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยไม่อาจจินตนาการได้ว่าตนจะสามารถเรียนรู้อะไรจากคนเหล่านั้น หรือหากพูดคุยกับคนที่เรากลัวที่สุดแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันหวังว่าเราจะสามารถหันกลับมาพูดคุยกัน ด้วยว่านั่นคือหนทางที่จะนำเรากลับมาพบกัน และเป็นหนทางที่จะพาเรามุ่งหน้าสู๋อนาคตอันเปี่ยมหวัง เราต้องการเพียงจินตนาการ ความกล้าหาญ และความศรัทธาเท่านั้น คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนมีอยู่แล้วในทุกคน ถึงเวลาแล้วที่เราจะฝึกฝนตนเองเพื่อพัฒนาศักยภาพเหล่านั้นให้ไปสู่จุดสูงสุด
เม็ก วีตเลย์
บางส่วนบางตอนของ หันหน้าเข้าหากัน เล่มนี้ ลองอ่านดูสิคะ ในราคา 130 บาท