 |
เสริมสมาธิด้วยพิธีกรรม.....สิ่งที่นิยมทำอีกอย่างหนึ่งก่อนทำสมาธินั้น โบราณท่านเรียกว่า ขอกรรมฐาน กรรม แปลว่าการกระทำ ส่วน ฐาน แปลว่าที่ตั้ง กรรมฐานจึงแปลว่าที่ตั้งของการทำงานทุกอย่างทุกชนิด หมายความว่างานทุกอย่างทุกชนิดควรทำด้วยจิตที่สงบ
สมาธิหรือกรรมฐานนั้นขอใครไม่ได้ ต้องฝึกปฏิบัติเอาเอง คำว่า ขอกรรมฐาน นั้น เป็นแต่เพียงการอธิษฐาน คือตั้งความปรารถนาขอให้ตัวมีความสงบแห่งจิต และยอมรับปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์เท่านั้น คำขอกรรมฐานนั้น แตกต่างกันไปตามแต่ครูอาจารย์
|
ผู้เขียน นิยม
ขอกรรมฐานก่อนทำสมาธิด้วยการอธิษฐานสั้นๆ ดังนี้
ข้าพเจ้าจะทำสมาธิ (หรือเจริญกรรมฐาน) ตามวิธีและแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำและสั่งสอนไว้ ขออานุภาพของพระพุทธเจ้า อานุภาพของพระธรรม อานุภาพของพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายจงคุ้มครองดลบันดาลให้ข้าพเจ้าสงบ ทั้งกาย วาจา และใจ เพื่อจักได้แลเห็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำก่อนและหลังการทำสมาธิทุกครั้งก็คือ
แผ่เมตตา คำว่า เมตตา แปลว่าความปรารถนาที่จะให้เป็นสุข เป็นการแสดงความไม่เห็นแก่ตัว เป็นการฝึกตนให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น สัตว์อื่น ไม่กินอยู่อย่างฟุ่มเฟือยปราศจากเหตุผล โดยไม่นึกถึงหัวอกผู้อื่น ที่กำลังยากไร้หรือมีกินมีใช้น้อยกว่าเรา
การแผ่เมตตา ท่านนิยมให้ขึ้นต้นที่ตัวเองก่อนโดยทำจิตให้สงบ แล้วนึกในใจว่า
ขอข้าพเจ้าจงเป็นสุข อย่าเป็นผู้มีเวร อย่ารังเกียจเบียดเบียนผู้อื่นสัตว์อื่น ขอข้าพเจ้าจงไม่มีทุกข์กายทุกข์ใจ รู้จักรักษาตัวอยู่เป็นสุขเถิด
เมื่อแผ่เมตตาให้ตัวเองแล้ว ท่านให้แผ่กรุณา (ความปรารถนาจะให้พ้นทุกข์) ให้ตัวเองด้วย โดยนึกในใจว่า
ขอข้าพเจ้าจงพ้นทุกข์เถิด แล้วแผ่มุทิตา (ความพลอยยินดีเมื่อมีสุขมีสมบัติเป็นของตน) ให้ตัวเอง โดยนึกในใจว่า
ขอข้าพเจ้าจงอย่าไปพรากจากสมบัติอันได้แล้ว มีแล้วเถิด เมื่อจิตของตนเปี่ยมไปด้วยเมตตา กรุณา และมุทิตาแล้ว จึงตั้งใจแผ่ออกไปเบื้องนอก ตั้งแต่ตรงที่ตนนั่งอยู่ ให้กว้างไกลออกไป ๆ จนออกไปนอกพ้นจักรวาล ให้ไกลไม่มีที่สุด แผ่ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย แล้วนึกในใจว่า
เมตตา
ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข
ขอสัตว์ทั้งหลายจงอย่ามีเวรแก่กันและกัน
อย่ารังเกียจเบียดเบียนกันและกัน
ขอสัตว์ทั้งหลายจงไม่มีทุกข์กายทุกข์ใจ
รู้จักรักษาตัวอยู่เป็นสุขเถิด
กรุณา
ขอสัตว์ทั้งหลายจงพ้นทุกข์เถิด
มุทิตา
ขอสัตว์ทั้งหลายจงอย่าไปพรากจากสมบัติอันได้แล้ว มีแล้วเถิด
อุเบกขา
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน
เป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
จะทำกรรมอันใดไว้ไม่ว่าดีหรือชั่ว
จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
ข้อความทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ สมาธิกับการทำงาน ของท่านพลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร แอดมินอ่านแล้วตอบโจทย์ทุกข้อที่ตัวเองเจอเลยค่ะ แอดมินเริ่มฝึกทำสมาธิสมัยเรียนนิติศาสตร์ที่รามคำแหง คือ ทำงานควบกับการเรียน เวลาอ่านหนังสือ จึงอ่านได้เต็มที่คือวันเสาร์ อาทิตย์ และตอนกลางคืนของวันทำงาน....วอกแวกตลอด ต้องพยายามฝึกสมาธิ

หนังสือเล่มนี้ยังหาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่าที่ซุบซิบ ช็อป นะคะ สวัสดีค่ะ
By แอดมิน